Love at First Sight…. พบกันคือบังเอิญ ส่วนรักยืนยาวคือสิ่งที่คุณต้องลงมือไขว่คว้า

จากการสำรวจผู้ใหญ่ 5,000 คนเมื่อปี 2017, 40% บอกว่าเคยมีรักแรกพบ จากสถิติทั่วโลก 50% ของการสมรสจบลงที่การหย่าร้าง ความสัมพันธ์แบบทางไกล มีอัตราความไปกันรอด พอๆ กับความสัมพันธ์ที่ได้อยู่ใกล้กัน คู่รักที่พบกันจากโลกออนไลน์ มีโอกาสจะประสบความสำเร็จในความสัมพันธ์พอ ๆ กับคู่ที่เจอกันในชีวิตจริงนั่นแหละ

หลังดูหนังเรื่องนี้จบ เราเสิร์ชหาสถิติและตัวเลขที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์มากมาย 

เข้าใจว่าเราคงมีอะไรบางอย่างคล้ายกับ Oliver หนุ่มวัยต้น 20 พระเอกของเรื่อง การได้รู้ความน่าจะเป็นหรือความเป็นไปได้ ที่มีตัวเลขยืนยันทำให้เราสบายใจ มันรู้สึกปลอดภัยกว่าเดินไปข้างหน้าแบบไม่รู้อะไรเลย 

Hadley เจอกับ Oliver ที่สนามบิน ทั้งคู่กำลังจะเดินทางจากอเมริกาข้ามขอบฟ้าไปอังกฤษ 

Hadley เป็นสาวอเมริกัน จะเดินทางไปที่นั่นเพื่อร่วมงานแต่งที่เจ้าบ่าวคือพ่อของเธอ ส่วนเจ้าสาวคือผู้หญิงที่เธอยังไม่เคยเจอมาก่อน ครอบครัว (ซึ่งหมายความถึง พ่อและแม่) ของเธอ พึ่งพังทลายลงได้ไม่นาน และเมื่อก่อนเธอสนิทกับพ่อมาก การเดินทางครั้งนี้เลยไปพร้อมกับแผลสดที่ยังเจ็บปวดในใจ 

ส่วน Oliver เป็นหนุ่มอังกฤษที่มาเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นการกลับบ้านชั่วคราว เพื่อไปร่วมงานศพอันแปลกประหลาดของครอบครัว ไปร่วมดำเนินพิธีการลาจากที่เขายังทำใจไม่ได้

มีความบังเอิญบางอย่างเกิดขึ้น บังเอิญได้นั่งข้างกันจากความขัดข้องของอุปกรณ์บนเครื่องบิน  Hadley บังเอิญทำเบอร์โทรศัพท์ของ Oliver หาย หลังจากแน่อกแน่ใจกันทั้งคู่จากการสนทนากันมาพักใหญ่ว่านี่มันรักแรกพบ นี่มันลงตัว นี่มัน ‘ใช่’ 

เราค่อนข้างชอบที่หนังไม่ทำให้การตามหา ‘หนุ่มคนนั้นบนเครื่องบิน’ ของ Hadley เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสอลังการณ์อะไร ชอบมากยิ่งกว่าที่หนังทำให้การตามหาจนเจอ ไม่ใช่จุดจบที่แสนหวาน แต่เป็นการได้เริ่มต้นพูดคุยสนทนาอย่างเป็นจริง 

และที่สำคัญที่สุด ประเด็นครอบครัว ในหนังเรื่องนี้ดีมาก มันอบอุ่น โอบกอดความเจ็บปวดในจิตใจทั้งทางฝั่งของพระเอกนางเอก 

ซีนนางเอกคุยกับพ่อ และ พระเอกคุยกับแม่ ทำเราน้ำตาซึมทั้งคู่ 

ถ้าจะมีอะไรที่ทำให้เรา เอ๊ะ อยู่ในใจนิดหน่อย ก็น่าจะเป็นการที่พระเอกนางเอกวัย 20 ต้นๆ คู่นี้ ดูโตเกินวัยเหลือเกิน ดูตกผลึกตกตะกอนสิ่งที่อยู่ในใจได้เร็ว สนทนากันอย่างลึกซึ้ง แถมยังตัดสินใจทำสิ่งนู้นสิ่งนี้อย่างมีสติสุดๆ ทุกอย่างเลยดูเป็นไปได้ด้วยดีจนบางครั้งเรานึกสงสัยว่ามันจะราบรื่น ได้ขนาดนี้เลยเหรอ 

นอกเหนือจากนั้น… เคมีระหว่างนักแสดงนำหลักดูเข้ากันดีค่ะ Haley Lu Richardson ผู้รับบท Hadley ดูโตขึ้นเยอะเลย จากครั้งล่าสุดที่เราเห็นเธอใน Five Feet Apart แต่ยังน่ารักมีเสน่ห์แบบสาวข้างบ้านอยู่เหมือนเดิม ในขณะที่  Ben Hardy ผู้รับบท Oliver พลิกบทบาทจากใน Bohemian Rhapsody หนังเรื่องที่ดังที่สุดของเขามาเยอะอยู่ แต่ก็ดูอบอุ่น น่ารัก ลุ่มลึก  ตามท้องเรื่องควรจะเป็น 

ส่วนเพื่อนฝูงคนรอบตัว ครอบครัวพระเอกนางเอก น่ารักมาก เป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังเรื่องนี้อบอุ่นขึ้นหลายสเต็ป

ท้ายสุด … ไม่ว่าโลกใบนี้จะมีสถิติหรือความน่าจะเป็นของสิ่งต่างๆ ในความสัมพันธ์มากมายแค่ไหนก็ตาม แต่การ อยู่ในส่วนไหนของตัวเลข ก็ยังมี สิ่งที่เราเลือก เป็นองค์ประกอบสำคัญ 

เรายังจำฉากนี้ได้แม่นยำ พระเอกนั่งคุยกับพ่อ 

พ่อถามว่า ‘รู้มั้ย ถ้าพ่อรู้ก่อนว่าหลังจากรักกันแล้ว แม่แกจะมีโอกาสเป็นมะเร็ง แล้วเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้น พ่อจะตัดสินใจอะไรเปลี่ยนไปบ้าง….’  

‘…. คำตอบคือ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย พ่อจะทำแบบเดิม เลือกเหมือนเดิมทุกประการ’ 

ความรักมันสวยงามแบบนี้นี่เอง 

สมาคมนิยมหนังหวาน
คุณให้หนังเรื่องนี้กี่คะแนน
[Total: 0 Average: 0]

แชร์:

Facebook
Twitter
Email
Print